หลายคนคงสงสัยว่าทำไมผลิตภัณฑ์หลายๆยี่ห้อถึงนิยมใส่สารกันความร้อนกับเสื้อผ้ากีฬา หรือเครื่องสำอางต่างๆ ผลิตภัณฑ์กอล์ฟเมทของเราก็ล้วนมี UV protection ทั้งนั้น เพื่อเหมาะแก่การสวมใส่ในที่โล่งแจ้ง บ้านเมืองของเราเป็นเมืองร้อน หน้าร้อนแดดจะแรงมาก เราจึงควรป้องกันผิวพรรณของเรา ไม่ให้ด่างดำ หรือเป็นมะเร็งแดดได้
วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับรังสีความร้อนมาให้เพื่อนๆ เข้าใจมากขึ้น เพื่อเราจะได้ปกป้องตัวเองได้อย่างถูกต้อง
รังสี มี 2 ประเภท คือ UVA และ UVB
รังสี UV คือรังสีคลื่นความถี่สั้น มีพลังงานมากที่สุดในบรรดารังสีที่ส่องจากดวงอาทิตย์ถึงพื้นโลก UVA และ UVB ส่องถึงพื้นโลกโดยไม่ถูกชั้นบรรยากาศดูดซับเอาไว้และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่ม มากขึ้นเนื่องจากชั้นบรรยากาศที่ถูกทำลาย
รายงานกล่าวว่าความไวในการรับรังสี UV ของผู้ชายมีมากกว่าผู้หญิง อัตราความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังจึงมีสูงกว่า ในปัจจุบันจึงให้ความสำคัญของการป้องกันรังสี UV เนื่องจากผลกระทบที่มีต่อทั้งผิวสวยและสุขภาพร่างกาย
ผลเสียของ รังสี UVA
เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นยาว พลังงานต่ำ ทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำ แดง เป็นรังสียูวีที่พบในชีวิตประจำวัน ลอดผ่านกระจกและเมฆ เข้าถึงภายในชั้นผิว เป็นสาเหตุที่นำไปสู่ "ความร่วงโรยของผิว" เช่น รอยเหี่ยวย่น, ผิวหย่อนยาน
ผลเสียของ รังสี UVB
เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นสั้น พลังงานสูง สามารถทำให้เกิดผิวไหม้ บวมแดง และหากได้รับรังสีเป็นระยะเวลายาวนาน อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ เป็นรังสียูวีในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เป็นสาเหตุของการคล้ำแดดกลางแจ้งส่งผลอย่างรุนแรงกับผิว ถ้าได้รับมากจะทำให้ผิวแสบแดงอักเสบและเป็นสาเหตุของฝ้ากระและความแห้งกร้าน
ค่า SPF คืออะไร
ค่า SPF หรือ Sun Protection Factor เป็นตัวระบุระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVB หรือ ก็คือจำนวนเท่าของเวลาที่ผิวทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลตนี้ได้หลังจากทาครีมกันแดดแล้ว ซึ่งโดยปกติผิวของเราจะรับมือกับแสงแดดโดยปราศจากครีมกันแดดได้ประมาณ 20-30 นาที ถ้าครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์นั้นระบุไว้ว่า SPF30 ก็จะหมายถึง เราสามารถอยู่กลางแดดได้ประมาณ 30 x 30 = 900 นาที หรือ 15 ชั่วโมง โดยที่ผิวไม่ไหม้แดง แต่กระนั้นการคำนวณอาจคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากครีมกันแดดที่ทาบนผิวอาจลบเลือนไปเมื่อเหงื่อออก โดนน้ำ หรือทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดควรทาครีมซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ประสิทธิภาพในการป้องกันแดดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ทำไม SPF สูง ก็ไม่ได้ดีกว่าเสมอไป
โดยทั่วไป ครีมกันแดด SPF ประมาณ 15 ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในแถบเอเชียอย่างเรา แต่สำหรับคนที่ผิวไวต่อแดด หรือถูกผิวถูแผดเผาให้หมองคล้ำได้ง่ายนั้น ใช้ SPF 30 ก็ถือว่าเพียงพอที่จะปกป้องผิวได้แล้ว แต่ถ้าอยากใช้ที่มีค่า SPF เยอะกว่านี้ ก็ไม่ว่ากันค่ะ
![spf](http://www.slhomedesign.com/wp-content/uploads/2015/11/spf.jpg)
มาตรฐานการวัดค่า UVA
ค่าในการวัดความสามารถ ในการปกป้องรังสี UVA คือ IPD และ PPD ซึ่งความแตกต่างของค่าสองชนิดนี้ มีดังนี้...
1. IPD : เป็นการวัดความสามารถ ในการปกป้องรังสี UVA โดยทำการทดสอบเริ่มตั้งแต่ 1 นาทีแรก หลังจากที่ผิวหนังถูกแสงแดด จึงเสมือนเป็นการวัดรอยดำของเม็ดสีบนผิวหนัง แบบชั่วคราวเท่านั้น
2. PPD : เป็นการวัดความสามารถ ในการปกป้องรังสี UVA โดยทำการทดสอบหลังจากผิวหนัง ถูกแสงแดดเป็นระยะเวลา 2 ชั่งโมง จึงเป็นการวัดรอยดำของเม็ดสี ที่เกิดขึ้นอย่างถาวร